ข่าวสารและบทความ
/
/
เทคโนโลยีใหม่และแนวโน้มการพัฒนา อนาคตของ Smart Warehouse ปี 2025
ข่าวสารและบทความ

เทคโนโลยีใหม่และแนวโน้มการพัฒนา อนาคตของ Smart Warehouse ปี 2025

วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2025
เทคโนโลยีใหม่ Smart Factory

Smart Warehouse ส่วนหนึ่งในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ Smart factory

ยุคดิจิทัล (Digital Era) การสื่อสารไร้พรมแดน ความก้าวหน้าทางวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และด้านอื่น ๆ มีให้เห็นอย่างมากมายในโลกปัจจุบันนี้ จึงไม่แปลกเลยที่ในกระบวนการทำงานโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง มีการพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ขยับขยาย นำวิธีการ เครื่องมือเครื่องจักร เครื่องทุ่นแรง ต่าง ๆ มาใช้อำนวยความสะดวก ลดการใช้แรงงานที่ไม่มีคุณภาพ ลดปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำงานทั้งคน ทั้งอุปกรณ์ ทั้งผลิตภัณฑ์ ให้มีน้อยที่สุด โดยการนำเรื่องของ Smart Warehouse เข้ามาดำเนินการทดแทนระบบการทำงานแบบเดิมไม่ว่าจะเป็น การผลิต การจัดคลังสินค้า ระบบคลังสินค้า ออกแบบคลังสินค้า Smart Warehouse การจัดส่ง การบำรุงรักษา การซ่อมแซม ฯลฯ แล้วในอนาคตข้างหน้าเทรนด์เทคโนโลยีใหม่และแนวโน้มการพัฒนาอนาคตของ Smart Warehouse จะเป็นอย่างไร ติดตามได้จากบทความนี้เลย

เทคโนโลยีใหม่และแนวโน้มการพัฒนาอนาคตของ Smart Warehouse

Smart Warehouse หรือรู้จักกันในนามคลังสินค้าอัจฉริยะนั้น เป็นการนำเอาความก้าวหน้ทางเทคโนโลยี ดิจิทัล (Digital Era) เข้ามาปฏิวัติการทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานให้ก้าวหน้า รวดเร็ว แม่นยำ มีเสถียรภาพ ขจัดปัญหาที่เคยเป็นอุปสรรคต่อการเก็บสินค้า พร้อมกับการดำเนินนโยบายเพื่อช่วยป้องกันการทำงานหากเกิดจากสาเหตุที่คาดไม่ถึงอย่างปัญหาโรคระบาด ทำให้เกิดการบริหารจัดการภายในด้วยการทำงานแบบระบบอัตโนมัติ พัฒนาคุณภาพสินค้า ลดต้นทุนการผลิต ประหยัดพลังงาน นำเครื่องจักร เครื่องยนต์ กลไก การทำงานต่าง ๆ มาทดแทนการใช้แรงงานคน ซึ่งเทคโนโลยีใน Smart Warehouse ที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นระบบคลาวด์  ที่สามารถดูข้อมูลต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ การใช้ระบบ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วยจัดเก็บวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ การทำงานแบบอัจฉริยะของเครื่องจักรหลาย ๆ ตัว ช่วยทั้งเรื่องของการผลิต การบำรุงรักษา มีความปลอดภัยในการทำงาน การทำงานของ IoT (Internet of Things) การจำลองหรือการพิมพ์ภาพ 3 มิติ การสร้าง VR การทำระบบ ERP สิ่งเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในการทำ Smart Warehouse ของทุก ๆ องค์กรได้ในทุก ๆ ส่วนงาน

เทรนด์อนาคตของ Smart Warehouse ทั้งในประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมีการปรับตัว ให้ความสนใจ ใส่ใจ เกิดความท้าทายในการดำเนินงานกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตามลำดับ โดยเฉพาะการนำมาใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในหลายส่วนงานที่ถือเป็นทางเลือกสำคัญของการพัฒนาการผลิตสินค้าได้อย่างก้าวกระโดด มีการสนับสนุนส่งเสริมทั้งจากภาครัฐและเอกชน โดยปัจจัยที่ทำให้เรื่องของ Smart Warehouse มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างมากนั้นเป็นความต้องการในการแก้ปัญหาและปรับปรุงพัฒนาระบบเดิมให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น อาทิเช่น

  1. งานการผลิต
    • เป็นการนำ Smart Warehouse เข้ามาดำเนินการแก้ปัญหาในกระบวนการผลิต ทั้งการผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน การผลิตที่ไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
    • การบันทึกข้อมูลการผลิต ปริมาณการผลิตต่อเครื่อง ของดี ของเสีย การตั้งระบบให้มีการทำงานแบบอัตโนมัติ อุณหภูมิ ความชื้น ระยะเวลาการทำงาน ฯลฯ
    • การประมวลผลข้อมูลร่วมกับเครื่องจักร เครื่องทุ่นแรง เพื่อดูแนวโน้มการผลิต ความก้าวหน้า การบรรลุเป้าหมาย
    • การวางแผน ควบคุมการผลิต การพัฒนาสั่งงานได้ในระยะไกล นอกสถานที่ที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น มีการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ ควบคุมกระบวนการผลิต ควบคุมเครื่องจักร สร้างมาตรฐานการผลิต ป้องกันการเกิดของเสีย
    • ความต้องการให้มีการผลิตที่รวดเร็ว แม่นยำ ลดของเสียจากการผลิต โดยหุ่นยนต์สามารถทำงานซ้ำ ๆ หรือมีความละเอียดสูงได้ โดยไม่เหน็ดเหนื่อย
  2. งานระบบคลังสินค้าและขนส่ง
    • การใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI หรือหุ่นยนต์มาช่วยในระบบสินค้าคงคลัง ตรวจสอบสินค้าคงเหลือในระบบคลังสินค้า ตรวจสอบการรับเข้าจ่ายออก รวมทั้งการจัดเตรียม วางแผนการจัดเก็บ จัดเก็บสินค้าเข้าที่ ไปจนถึงระบบขนส่ง นำส่งสินค้าถึงลูกค้าได้อย่างถูกต้องตรงตามความต้องการ
    • การค้นหาข้อมูลเส้นทางในการเดินทางและจัดส่งสินค้าเพื่อกำหนดเส้นทางที่ถูกต้องและดีที่สุด
  3. งานซ่อมบำรุง
    • นำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ผลการหยุดเครื่องจักรแต่ละครั้งมาประมวลผล ใช้คาดการณ์เพื่อลดเวลาการหยุดเครื่องโดยไม่ได้วางแผน ส่งผลไปยังการลดปัญหาการผลิตไม่ทันเวลา
  4. งานบริหารจัดการโรงงานอุตสาหกรรม
    • จากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน หรือแรงงานขาดคุณภาพ ในบางการผลิต การใช้ AI หรือหุ่นยนต์มาช่วยงาน ทำให้ขจัดปัญหาดังกล่าวได้ รวมทั้งสามารถสั่งการให้มีการเพิ่มการผลิตทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ผลผลิตงานได้ตามมาตรฐาน รักษาคุณภาพสินค้า มีความสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น
    • ระบบ Smart Warehouse ทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ จึงทำให้หัวหน้า ผู้จัดการ ผู้บริหาร ทั้งหลาย สามารถมอนิเตอร์การทำงาน แก้ไขปัญหา ตัดสินใจได้อย่างทันท่วงทีบนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริงตามสถานการณ์ ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง นำข้อมูลวิเคราะห์ต่อยอดได้ ทั้งการขาย การจัดซื้อ การจัดคลังสินค้า การผลิต เป็นต้น
    • ความต้องการในการลดต้นทุน เพิ่มผลกำไร สร้างความก้าวหน้า ลดเวลาการทำงาน จำเป็นต้องนำระบบ smart factory ที่เป็นเทคโนโลยีอีกระดับนั้นมาดำเนินการจัดการ อาทิ Smart Warehouse เข้ามาปฏิบัติการ
    • ผลจากการทำงานที่ผิดพลาดของพนักงาน ผู้บริหารจึงต้องการการแก้ไข ให้มีการทำงานที่แม่นยำขึ้น ลดโอกาสความผิดพลาดในการทำงานทั้งการผลิต ทั้งระบบคลังสินค้า ลดความผิดพลาดจากแรงงานคน
    • ความต้องการใช้ข้อมูลพื้นฐานชุดเดียวกัน เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นระบบ มีความปลอดภัยของข้อมูล Smart Factory สามารถเชื่อมต่อระบบการทำงานทั้งหลายในองค์กรเข้าด้วยกันได้ รวมถึงสามารถจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงของแต่ละส่วนงาน จัดการกระบวนการทำงานได้ตามการทำงานพื้นฐานประจำวัน
  5. งานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม
    • ลักษณะงานบางจุดมีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน การใช้ระบบ Smart Factory หรือ Smart Warehouse เข้าช่วยด้วย ทั้งหุ่นยนต์ AI ปัญญาประดิษฐ์ IoT จะสามารถลดอุบัติเหตุในการทำงานจากการใช้เครื่องจักร จุดเสี่ยงต่าง ๆ ในการทำงานได้เป็นอย่างดี
    • การลดของเสีย การเลือกใช้วัตถุดิบ การเลือกสรรวัสดุ การควบคุมจัดการสินค้าคงคลัง การออกแบบคลังสินค้า สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการจัดการสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องดำเนินการ

Smart Warehouse สามารถนำมาปรับใช้ได้ในทุก ๆ องค์กร ขึ้นอยู่กับความพร้อมทั้งเงินทุน ทรัพยากร บุคลากร อาจเริ่มต้นการทำระบบเพียงบางส่วนก่อนก็ได้ เช่น การทำระบบ Smart Warehouse เป็นต้น แล้วค่อยขยายไปยังส่วนงานอื่น ๆ โดยปัญหาหรืออุปสรรคสำหรับการนำ Smart Factory มาปรับใช้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของประสบการณ์ในการใช้งาน ขาดบุคลากรในการดำเนินการ การเชื่อมต่อกับระบบเดิมที่ใช้อยู่ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบ และความกังวลเรื่องจุดคุ้มทุน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีองค์กรต่าง ๆ ให้ความสนใจเพื่อต้องการปรับปรุงให้การทำงานเป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น ช่วยประหยัดแรงงานได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ภาครัฐยังมีความตระหนัก ส่งเสริมให้ความร่วมมือ เป็นที่ปรึกษา ในการพัฒนาทักษะบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมให้เข้มแข็งสามารถดำเนินการมุ่งสู่การเป็นองค์กร Smart Factory เพื่อยกระดับการผลิตของอุตสาหกรรมไทยในอนาคตให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ถูกต้อง และคุ้มค่ามากที่สุด

บริษัท เอช เทค เทคโนโลยี จำกัด AECTEC ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบคลังสินค้า การจัดคลังสินค้า การจัดการสินค้าคงคลัง ระบบคลังสินค้า Smart Warehouse ให้บริการแบบครบวงจร พร้อมให้คำปรึกษากับทุก ๆ องค์กร ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ที่เราให้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี เราพร้อมดูแลลูกค้า สร้างความประทับใจ เพื่อให้ได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดสำหรับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการจัดการในทุกกรณีอย่างลงตัว

สนใจสินค้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับ

Automated Warehouse, การจัดการสินค้าคงคลัง, ออกแบบคลังสินค้า, Smart Warehouse

บริษัท เอช เทค เทคโนโลยี จำกัด

503 ถ.พระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150
โทร. 089-771-8589
Email: acetec@acetec.co.th

LINE : @acetec

ข่าวสารและบทความ

uncategorized author